ชวนคุย !!..ถึงการใส่สีเสื้อผ้ามงคลเพื่อเสริมดวงตามวัน..!?

เล่าถึง!การใส่เสื้อผ้าตามตารางสีมงคลประจำวัน!

{ นึกถึงช่วงหลายปีที่ผ่านมา } 

เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ติดการใส่สีเสื้อผ้าเสริมดวงตามวัน

ในตู้เสื้อผ้าจะต้องมีตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน เพื่อดูว่าวันนี้จะใส่เสื้อผ้าสีอะไรดี !?

ก็จะจัดชุดใส่ไปทำงานตามสีนั้นๆ จนติดเป็นนิสัยที่เคยชินแบบนี้ไปโดยไม่รู้ตัว....

แม้กระทั่งในช่วงที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ต้องนอนพักค้างตามสถานที่ต่างๆ

เวลาจัดกระเป๋าเดินทางก็ไม่ลืมที่จะนำตารางการใส่สีเสื้อผ้ามงคลตามวันไปด้วยเสมอ

มักจัดสีเสื้อผ้าต่างๆไว้ให้ตรงตามสีวันที่จะไปทำภารกิจการงานต่างๆด้วย

ชีวิตช่วงเวลานั้นจะเคร่งเครียด

กับภาระหน้าที่การทำงานที่ต้องบริหารโดยตลอดเวลา

ทำงานหนัก ความรับผิดชอบสูง ในแต่ละวันมีปัญหามาให้แก้ไขอยู่เสมอๆ

จึงต้องพกความมั่นใจ กับความอดทนติดตัวไปทำงานทุกๆวัน

ใส่เสื้อผ้าสีประจำวันแล้วดีมั่ย?ช่วยชีวิตการทำงานในวันนั้นได้ดีมีโชคลาภขนาดไหน !!

ก็ได้มาย้อนคิดดูในวันนี้...สิ่งที่ได้รับจากการใส่สีเสื้อผ้าประจำวันนั้นมันดีต่อความรู้สึก

ดีทางด้านจิตใจ เกิดความรู้สึกเชื่อมั่น เหมือนเป็นพลังด้านดี +++ ตามความเชื่อนั้น

เป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่เราได้้เออร์รี่รีไทร์ ออกจากอาชีพรับราชการ 

ไม่ได้แต่งตัวออกไปทำงานอีกแล้ว  อยู่บ้านเป็นส่วนมาก ก็ไม่ได้พิถีพิถันกับการแต่งตัว

แรกๆ เวลาจะออกจากบ้านไปไหนก็เคยชินกับการแต่งกายตามสีตามวันนั้นอยู่

การใช้ชีวิตแบบอยู่กับบ้านธรรมดาๆ

แต่งกายลำลองสบายๆ ด้วยชุดใส่อยู่กับบ้าน นานๆเข้า

ก็เลยลืมเจ้าแผ่นตารางสีเสื้อผ้ามงคลประจำวันไปโดยอัตโนมัติ

แล้วเมื่อไม่ได้ใส่สีเสื้อผ้ามงคลประจำวันแบบเดิมนั้นมันมีผลเสียอะไรเกิดขึ้นมั้ย!?

สรุปคือ ชีวิตประจำวัน ณ วันนี้

ก็ยังเหมือนเดิม ตามวิถีของชีวิตคนโดยปกติทั่วไป

นั่นก็คือ....วันนี้ดีมีสุข ยิ้มได้ แต่พรุ่งนี้ทุกข์ เสียใจเสียน้ำตาไปกับอะไรๆบ้าง 

ที่ไม่ได้ดั่งใจของตัวเราเอง....ฯลฯ

ความรู้สึกต่างๆเหล่านั้นก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไป

ตามชะตาชีวิตของเราก็เท่านั้นเอง !

11 ลักษณะ บุคลิกภาพที่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ

มาพูดกันต่อถึงการไปเรียนการเลขานุการ(สร้างบุคลิก) 

" ช่วยให้ชีวิตการทำงานประสบความสำเร็จได้ "

การพัฒนาบุคลิกภาพ เป็นเรื่องสำคัญมากกับอาชีพเลขานุการ ส่วนมากตามองค์กร หรือบริษัทใหญ่ๆ

ผู้บริหารระดับต่างๆ ก็จะมีเลขานุการส่วนตัว เลขานุการเป็นหน้าเป็นตาที่ต้องทำหน้าที่สำคัญๆ หลายอย่าง คอยจัดทำตารางงาน และตารางการเข้าพบของเจ้านาย และเป็นผู้เก็บความลับได้เป็นอย่างดี

เลขานุการ โดยส่วนมากมีบุคลิกคล่องแคล่วว่องไว ฉลาดหลักแหลม หน้าตาสวยงามยิ้มแย้มแจ่มใส 

พูดจาต้อนรับขับสู่เก่ง และที่สำคัญการแต่งกายต้องสวยดูดีมีระดับ *______* ดังนั้นทางวิทยาลัย จึง

ได้เน้นการสอนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวข้างต้น เช่น วิธีเลือกเสื้อผ้าสีลายอย่างไรถึงจะเหมาะ ใส่แล้วดูดี

เราได้ฝึกให้ใส่รองเท้าส้นสูงกันตั้งแต่ตอนเรียนเลยทีเดียว ฝึกการเดิน การนั่ง มารยาทในสังคมต่างๆ

และได้มีคอร์สเรียนลีลาศด้วยในขณะนั้น  มีวิชาที่สามารถจดบันทึกได้ไว เพราะเลขานุการต้องติดตาม

เจ้านายไปประชุมสำคัญๆ ต้องคอยจดการประชุมให้เจ้านายด้วย จึงต้องมีการเรียน "วิชาชวเลข" 

ตอนที่ทำงานแรกๆ ก็ยังใช้วิธีชวเลข ในการจดบ้างตอนที่ได้ตามนายใหญ่ไปประชุม และต้องกลับมา

สรุปย่อนำเสนออีกครั้ง  แต่สมัยนี้คงไม่มีสอนแล้ววิชาชวเลขนี้ เพราะยุคนี้เป็นยุคไอที มีเครื่องมือ

สำนักงานที่ทันสมัย ใช้การบันทึกเสียงได้ง่าย แล้วก็มาเปิดฟังกันทีหลังได้อย่างสบายๆไม่มีตกหล่น

ดังนั้นจากการได้เรียนการเลขานุการ มีวิชาความรู้ดีๆ ติดตัวมาใช้กับการทำงาน ก็ทำให้เรามีบุคลิกภาพ

ที่ดี ทั้งบุคลิกภายใน และบุคลิกภายนอก สามารถปรับตัวกับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

แจ่มใสดูเป็นมิตร รู้จักการแต่งตัวให้เหมาะกับสถานที่และกาลเทศะ มีอัธยาศรัยไมตรีมีน้ำใจต่อคนทั่วไป

จึงทำให้หน้าที่การงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง เจริญก้าวหน้าในอาชีพรับราชการ สามารถสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้เป็นลำดับ จนได้ขึ้นถึงตำแหน่งนักบริหาร เป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับ 8 เป็น

ผู้บังคับบัญชาที่มีคุณธรรม บริหารงานปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากถึง 400 คน กันเลยทเดียว !!

บุคลิกภาพที่ดีมีความสำคัญมากสามารถก่อให้เกิดความสำเร็จได้ในทุกๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นในการทำงานในอาชีพต่างๆ การใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนหนังสือ การศึกษาหาความรู้ เรียกได้ว่าใช้กับทุกเรื่อง เราจึงควรมาสร้างบุคลิกภาพที่ดี บุคลิกภาพที่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ให้กับตนเองกันดีกว่า  ซึ่งก็มีอยู่หลายประการดังจะได้กล่าวต่อไปดังนี้ 

1.หน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใส

ใครเห็นก็บอกว่าอัธยาศัยดี น่าคบหาสมาคมด้วย ตรงกันข้ามฝีหน้าออกมาแบบบุญบอกไม่รับ  ก็จบกันตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ถ้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับก็ไม่มีใครอยากเดินผ่านเข้ามาให้บริการ  ทำงานด้านนี้ไม่ก้าวหน้าอย่างแน่  ถ้าเป็นผู้บริหารก็เรียกว่าเชาว์อารมณ์ค่อนข้างแย่ ทำให้เสียบุคลิกภาพ  ลูกน้องเห็นก็ไม่อยากเข้าใกล้ พาลไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน ดังนั้นเพื่อธุรกิจที่ก้าวไกล สิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องมีก็คือใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา เพราะอย่างไรก็คงไม่มีใครอยากใช้บริการหรือทำงานร่วมกับคนที่เอาแต่เคร่งเครียดและใช้อารมณ์อยู่ตลอดเวลาหรอกจริงไหม

 2.การแต่งกาย

นี่ทำสิ่งที่จะปรากฏให้ผู้อื่นเห็นตั้งแต่แรกพบ  ที่จะทำให้ผู้อื่นประทับใจอย่างมากได้  ถ้าแต่งกายอย่างดี ถูกกาลเทศะ มีความสะอาดเรียบร้อย ดูดีไปหมด เรียกว่าเนี้ยบเลนทีเดียว  ถ้าไปสมัครงาน  เราแต่งกายไม่เรียบร้อย  คนที่จะสัมภาษณ์งานเราจะตำหนิในใจว่ามาสมัครยังไม่เคารพสถานที่เลย  ถ้ารับเข้ามาทำงานแล้วคงไปกันใหญ่  บริษัทนั้นไม่รับแน่นอน  ถ้าแต่งกายเรียบร้อยดีก็จะมีโอกาสมากกว่า เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหางานทำ หรือทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ พนักงานบริษัท ผู้บริหารอยู่แล้ว ก็ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย อย่าลืมว่าการแต่งกายที่เรียบร้อยจะทำให้คุณมีชัยไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว

 3.ความรู้

เป็นสิ่งที่ทำให้เราดูดี ช่วยเสริมในเรื่องบุคลิกอย่างต่อเนื่อง  เมื่อผู้ที่ได้เข้ามาพูดคุยกับเรา  ก็มีความรู้สึกว่าคุยกับคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นที่น่าเสื่อมใส ทำงานอาชีพใดก็จะมีความก้าวหน้าเพราะมีความรู้ความสามารถมากกว่าผู้อื่น  และความรู้จะทำให้เรามีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ใส่ใจไฝ่หาความรู้ นอกจากนี้การมีความรู้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอีกด้วย เพราะผู้ที่มีความรู้ จะสามารถบริหารจัดการงานได้ดีกว่าผู้ที่ขาดความรู้นั่นเอง

4.การสื่อสารพูดคุย

เป็นการสัมผัสบุคลิกภาพในความมีมารยาทสำหรับการสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ ที่การพูดคุยให้เป็นไปด้วยดี  ทั้งระดับน้ำเสียง พูดมีสาระ พูดแบบเป็นกันเอง หรือการพูดคุยล้อเล่น ก็ตามสถานการณ์ที่แตกต่างการ ไม่ใช่จะพูดอย่างเดียวโดยไม่ให้จังหวะผู้อื่นพูดบ้าง และเราเป็นคนฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง

5.ความมั่นใจในตนเอง

จะทำให้มีบุคลิกที่เป็นผู้นำได้ดีกว่าผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในตนเอง  ความมั่นใจส่งผลให้มีความสำเร็จในด้านต่างๆ    ความมั่นใจทำให้บุคลิกภาพของเราดูนำเกรงข่าม ดูเป็นคนน่าเชื่อถือ  และยังสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมเติมความมั่นใจให้กับตนเอง เพื่อการก้าวหน้าสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานกันด้วย

 6.มองโลกในแง่ดี คิดแต่ด้านบวก

เป็นบุคลิกที่ผู้อื่นชื่นชอบ อยากเข้ามาปรึกษา เพราะจะได้รับคำตอบที่เป็นในแง่บวกอยู่ตลอด สามารถนำความคิดแก้ปัญหาได้ดี ถ้าเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย  คิดแต่ด้านลบ จะทำอะไรก็จะไม่มีความสำเร็จ เพราะในจิตใจมีแต่คิดด้านลบ

7.อ่อนน้อมถ่อมตน

 เป็นบุคลิกที่สังคมไทยส่วนใหญ่ให้การยอมรับ  ยิ่งถ้าเป็นผู้น้อยด้วยแล้วต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้หลักผู้ใหญ่  ผลก็คือจะได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ เป็นผลให้ได้รับความอุปการะ และผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อเราเดือดร้อน

8.มีศีลธรรม

 นำความเหลื่อมใสศรัทธามาสู่ผู้ที่มีศีลธรรมประจำใจ  ผู้ใดที่ได้เข้ามาสัมผัสกับเราจะมีความไว้อกไว้ใจ  เพราะศีลธรรม บ่งบอกถึงว่าเราเป็นผู้มีธรรมะเป็นที่ตั้ง น่านับถือ

9.สุขภาพ

 การมีสุขภาพร่างกายที่ดี  จะเป็นพื้นฐาน  สามารถทำอะไรในการดำรงชีวิตอย่างมั่นใจ ส่งผลให้จิตใจแจ่มใส  ทำให้มีบุคลิกภาพที่ดูดี  ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

10.การพักผ่อน  

จะทำให้ร่างกายของเราดูไม่เหน็ดเหนื่อย  ไม่เคร่งเครียดถ้าพักผ่อนพอเพียงจะส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง  ทำให้ร่างกายแข็งแรง  ทำหน้าที่การงานได้ต่อไป เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่ทำงานจนลืมที่จะพักผ่อนกันด้วยล่ะ ยิ่งพักผ่อนอย่างเพียงพอมากเท่าไหร่ คุณก็จะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากเท่านั้น

 11.ครอบครัว

 แบ่งเวลาให้ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจละเลย  เพราะครอบครัวมีส่วนช่วยเสริมในเรื่องบุคลิกภาพในด้านจิตวิทยาอย่างมาก  ครอบครัวเหมือนเป็นทุกอย่าง ทั้งกำลังใจเมื่อหมดหวัง  เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด  ช่วยแก้ปัญหาที่คนอื่นไม่รู้  ครอบครัวจึงเป็นพลังสำคัญต่อชีวิต  และบุคลิกภาพของเรา

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือสิ่งสำคัญในการสร้างบุคลิกภาพของท่านให้ดูดี  ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่อง  ท่านควรปฏิบัติตามที่กล่าวมาให้ได้ทุกข้อ หรือทำให้ได้มากที่สุด  เพื่อความสำเร็จของตัวท่านเอง  และเป็นการไม่อย่างเลยที่ท่านจะปฏิบัติตาม  เพราะผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคนส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามที่กล่าวมาไว้อย่างครบถ้วน

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : moneyhub.in.th

บุคลิกภาพนั้นสำคัญไฉน !!

การเลขานุการ...ดีอย่างไร?

พูดถึงความรู้จากการเล่าเรียนมา เราเรียนพณิชย์ จบปวช.สาขาการเลขานุการ
ยังคงจำได้ดี  สาขาวิชานี้มีประโยชน์กับเรามากมาย ที่ช่วยให้มีบุคลิกภาพดีและ
นำวิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียนมา สามารถนำใช้ในชีวิตการทำงานได้จริงๆ ทำให้มี
ความมั่นใจกล้าเข้าสังคมมากขึ้น จากเดิมก่อนที่จะเรียนจบ เราเป็นคนไม่กล้าพูด
กลัวการเข้าสังคม และไม่รู้ตัวเอง รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองมากๆเลย 

หลังเรียนจบมา เราได้เข้าทำงานในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง เราเริ่มจับทางถูก
กล้าพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน แต่สำหรับผู้บังคับบัญชายังกล้าๆกลัวๆอยู่ และเริ่มจะ
เข้าสังคมได้ รู้จักการวางตัวได่้บ้างแล้ว  สำหรับการแต่งกาย ก็รู้จักแต่งกายให้เหมาะ
สมกับสถานที่ และการแต่งตัวไปร่วมงาน หรือร่วมงานพิธีในโอกาสต่างๆด้วย

ความสำคัญของ" บุคลิกภาพ! "

การบรรจุเข้าทำงานในหน่วยงานราชการใหม่ๆ ยังต้องทดลองงานก่อน 6 เดือน และ
หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว หัวหน้างานของเราก็จะทำการประเมินผลการปฎิบัติราชการ
ตามเกณฑ์การประเมินการทดลองงาน ก็จะมีการให้คะแนนด้านต่างๆ และก็มีเกี่ยวกับ
บุคลิกภาพทุกด้าน การเข้ากับเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และการปรับตัวของเรา

เห็นไหมว่า..เจ้าบุคลิกภาพส่วนตัวของเรานั้นมันสำคัญขนาดไหน เมื่อเวลาถึงวัยทำงาน
ด่านแรกที่เราต้องใช้บุคลิกภาพของเราเลยก็คือ "การสอบสัมาภาษณ์เข้าทำงาน" และ
เมื่อได้เข้าทำงานในหน่วยงานนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานบริษัทเอกชน หรือเป็นงานราชการ
ก็จำเป็นต้องปรับตัวกับสถานที่,คนทำงาน ก็จะต้องผ่านการทดลองงาน,การประเมินต่างๆ

แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตจริง !

ในบทความต่อๆไป>>>จะทะยอยพูดกันถึงการพัฒนาบุคลิกของเราในด้านต่างๆวิธีง่ายๆ
ทำด้วยตัวเราเอง ไม่ต้องเสียเงินเข้าคอร์สเรียนพัฒนาบุคลิกภาพกับใคร?เราฝึกกันเองได้!

ผู้เขียน/Blogger จาก * Fe's house *